สหายเก่าของผม: การกลับมาคุยกันระหว่าง โจ ไบเดน และ สี จิ้นผิง

by thiaopaithua
0 comment
การกลับมา

สหายเก่าของผม: การกลับมาคุยกันระหว่าง โจ ไบเดน และ สี จิ้นผิง

เมื่อเพื่อนเก่าโจ ไบเดน และ สี จิ้นผิงต้องกลับมาเจรจาเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหลังเกิดความขัดแย้งมาอย่างยาวนานระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน ถือว่าเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลกเป็นอย่างมากในการเจรจาระหว่าง 2 มหาอำนาจโลก รวมไปถึงประโยค ‘สหายเก่าของผม’ ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเอ่ยต่อประธานาธิบดีโจไบเดนในการประชุมสุดยอด Virtual Summit ครั้งประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2564 โดยระยะการประชุมทางไกลถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง

ด้วยความขัดแย้งของสองประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง ในช่วงที่ทำให้อเมริกาก้าวขึ้นมาเป็นประเทศมหาอำนาจโลกและมีความตั้งใจจะเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งขัดแย้งกับแนวคิดของรัสเซียและจีนที่กล่าวว่าควรมีมากกว่าหนึ่งเพื่อให้ถ่วงดุลอำนาจกัน กาลเวลาผ่านไปจนมีการเปลี่ยนผู้นำครั้งแล้วครั้งเล่าตามวาระการทำงานแต่ปัจจุบันก็มีการห้ำหั่นกันอย่างดุเดือดทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง เป็นที่ทราบกันดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศไม่ค่อยเป็นไปด้วยดีนัก โดยเฉพาะในสมัยของดอนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาถึงกับประกาศสงครามการค้ากับจีนอย่างดุเดือด ทั้งการขึ้นภาษาสินค้าจีน 25% จนถึงการแบนบริษัทจีน ซึ่งจีนก็ตอบโต้ด้วยมาตรการทางภาษีเช่นกัน แต่อย่างไรโจ ไบเดน และ สี จิ้นผิงก็ยังกลับมาคุยกันได้

กลับมาที่ปัจจุบัน เพื่อความสันติในการอยู่ร่วมกันและไม่ให้สถานการณ์การแข่งขันกลายเป็นความขัดแย้งได้มีการจัดประชุมสุดยอด Virtual Summit เป้าหมายก็เพื่อวางกรอบสองชาติมหาอำนาจหลังจากสหรัฐจับมือกับพันธมิตรปิดล้อมการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โจ ไบเดน และ สี จิ้นผิงได้เข้ามามีบทบาทร่วม ซึ่งถือเป็นการเจรจาอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่โจไบเดนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา การประชุมถูกเริ่มด้วยรอยยิ้มยิ้มแย้มจากทั้งสองที่มีให้กันอย่างเป็นมิตรก่อนเข้าสู่การเจรจาประเด็นหลักตั้งแต่สิทธิมนุษยชน เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ท่ามกลางการเจรจาอย่างราบรื่น ตลอดจนการใช้วาจาแลกหมัดต่อหมัดในประเด็นที่สหรัฐให้การสนับสนุนไต้หวันและประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน  มิตรภาพของผู้นำ 2 มหาอำนาจโลกได้เริ่มตั้งแต่สมัยการเป็นรองประธานาธิบดีซึ่งโจ ไบเดน และ สี จิ้นผิงเคยดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาก่อน ทำให้เคยรู้จักและไปเยี่ยมเยียนกันระหว่าง 2 ประเทศ หากเทียบกับประเทศอื่นก็ทำให้มีความคุ้นเคยตามประสาเพื่อนเก่า

เพื่อนเก่า…จริงหรือ 

เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อข่าวของอเมริกาว่าไม่ใช่เพื่อนเก่าเป็นเพียงความสัมพันธ์เกี่ยวกับเรื่องงานระหว่างประเทศเท่านั้น ข้อคิดเห็นของนักวิชาการด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของมหาวิทยาลัยเหรินหมิน ระบุไว้ว่า เมื่อชาวจีนเรียกใครว่าเพื่อนเก่า เราหมายถึงเรารู้จักเขามาเป็นเวลานานแต่ไม่จำเป็นต้องแปลว่าเขาเป็นเพื่อนเราก็ได้ แม้จะมีกระแสตอบรับจากหลายคนว่าการประชุมหารือในครั้งนี้อาจไม่ค่อยมีอะไรคืบหน้าสักเท่าไหร่เป็นเพียงการแสดงจุดยืนของทั้งสองประเทศอย่างจริงจังของโจ ไบเดน และ สี จิ้นผิงเท่านั้นแต่นี่ก็ถือเป็นการเริ่มพูดคุยอย่างเป็นทางการและตรงไปตรงมาเพื่อหาแนวทางและจุดร่วมให้สามารถแข่งขันกันอย่างสันติและเสถียรภาพไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือเกิดสงคราม  ติดตามข่าวสารได้ที่ เที่ยวไปทั่ว

You may also like

Leave a Comment