การขอพรและไหว้พระที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น
ศาลเจ้าญี่ปุ่นเป็นสถานที่ที่คนญี่ปุ่นไปสักการะและสวดมนต์ ในอดีตศาลเจ้ามีไว้สำหรับผู้นับถือศาสนาพุทธเท่านั้น ศาลเจ้าเท่านั้นที่ชาวพุทธใช้เพื่อบูชาพระเจ้า แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้คนเริ่มไปศาลเจ้าในเกือบทุกส่วนของญี่ปุ่น วันนี้เราจะพาทุกท่านมาดูวิธีการขอพรและไหว้พระที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นกัน จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ศาลเจ้าญี่ปุ่นและความเชื่อ
ก่อนอื่นเราจะพูดถึงประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรมของศาลเจ้าญี่ปุ่น จากนั้นเราจะแนะนำคนทุกท่านเกี่ยวกับสถานที่เข้าเยี่ยมชมและการบูชา
วัฒนธรรมญี่ปุ่นเต็มไปด้วยศิริมงคลและพรมากมาย เราสวดอ้อนวอนต่อเทพเจ้าและเทพเจ้าต่าง ๆ เพื่อเป็นการขอบคุณสำหรับพรที่ให้มา อย่างไรก็ตาม ศาลเจ้าญี่ปุ่นและสถานที่สักการะของเรามักเป็นบ่อเกิดของทั้งความสุขและความเศร้าโศก หัวใจของเรายุ่งเกินกว่าจะจดจ่ออยู่กับเทพเจ้าที่เราสวดอ้อนวอนในขณะที่พวกเขาไม่ทำอะไรเลยนอกจากการเฝ้าดูเราวุ่นวายใจ
อย่างไรก็ตามศาลเจ้าญี่ปุ่น เหล่านี้ให้ประโยชน์แก่เรา เช่น ช่วยให้เราจดจ่อกับคำอธิษฐานเพื่อให้เราได้รับพรมากขึ้น แต่ก็อาจนำมาซึ่งความโศกเศร้าเมื่อประสบพบภัยร้าย จิตใจของเราอาจรู้สึกผิดที่เราไม่ได้ใช้เวลานานพอกับการอธิฐาน อย่างไรก็ตามสถานที่เหล่านี้บางคนเชื่อว่าสามารถบรรเทาความเศร้า ความทุกข์ได้โดยการดึงความสนใจไปที่สิ่งอื่น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายติดตาม เที่ยวไปทั่ว
วิธีการไหว้ขอพรศาลเจ้าญี่ปุ่น
1) ยืนตรงหน้าศาลเจ้า และตั้งจิตใจให้สงบ
2) โยนเหรียญลงกล่องรับบริจาค และทำการสั่นกระดิ่ง (ถ้าไม่มีให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป)
3) ทำการโค้งคำนับสองครั้ง
4) ประกบเพื่อปรบมือ ประกบมือแรง ๆ เหมือนกับปรบมือ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการเรียกเรียกเทพเจ้า
5) พนมมือ ขอพรหรืออธิษฐานอย่างสงบในใจ
6) โค้งคำนับหนึ่งครั้งในการปิดท้าย เพื่อเป็นการส่งเทพเจ้า
ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ผู้คนจะไปที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น เพื่อสวดมนต์ ภาษาญี่ปุ่นมีคำและวลีมากมายซึ่งใช้ในพิธีกรรมการสวดมนต์ เราสามารถพบคำและวลีเหล่านี้มากมายในคำอธิษฐานประเภทต่าง ๆ
ศาลเจ้าที่ต้องไป เมื่อไปถึงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น!
หลังจากที่เราได้ทราบถึงความเป็นมา ความเชื่อ และวิธีไหว้ขอพรจากการไหว้ศาลเจ้าที่ญี่ปุ่นแล้ว เรามาดูกันต่อเลยว่า เมื่อไปถึงญี่ปุ่นแล้ว ควรไปสักการะศาลไหนดี และคงจะหนีไม่พ้นกรุงโตเกียว เมืองหลวงชื่อดังของญี่ปุ่นนั่นเอง และสถานที่ด้านล่างที่จะเอ่ยถึงนี้ เป็นศาลชื่อดังที่อยู่ในโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น นักท่องเที่ยวต้องห้ามพลาด!
ศาลเจ้าฮิเอะ
ศาลเจ้าฮิเอะ ตั้งอยู่ที่เมืองนากาตะ ซึ่งเมืองที่เป็นพื้นที่ศูนย์กลางของการเมือง
ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ โดยว่ากันว่า มีความรุ่งเรืองทางการค้าขาย และความสำเร็จของธุรกิจ
กิจการประเภทต่าง ๆ จะได้มาจากขอพร และสัมฤทธิ์ผลของศาลเจ้าแห่งนี้ ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่มีทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ หรือพนักงานบริษัทต่าง ๆ มากมาย ที่มักมากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย โดยในอดีตนั้น ศาลเจ้าฮิเอะแห่งนี้ ยังมีบทบาทในการเป็นพื้นที่ที่ปกป้องปราสาทเอโดะมาก่อนหน้านี้ด้วย ดังนั้น ที่ศาลเจ้าฮิเอะแห่งนี้ จึงจะมีลิงเป็นบริวารคอยรับใช้เทพเจ้า และสังเกจได้ว่า มีการติดตั้งรูปปั้นลิงหินไว้ที่ด้านซ้ายขวาของอาคารศาลเจ้าด้านหน้าอีกด้วย
ศาลเจ้าโทะมิโอะกะฮะชิมังกู
ศาลเจ้าโทะมิโอะกะฮะชิมังกูแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าที่ทำการก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1627 จากนั้นมีการจัดงาน เทศกาลฟุคะกะวะฮะชิมังกู ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมามากกว่า 350 ปี กันเลยทีเดียว โดยเทศกาลที่ว่านี้ จะจัดในทุก ๆ วันอาทิตย์ ยกเว้นสัปดาห์ที่ 3 ของทุกเดือนและมีการเปิดท้ายขายของโบราณประเภทต่าง ๆ กันภายในศาลเจ้าอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีผู้คน นักท่องเที่ยว จำนวนมากมายเดินทางมาเยี่ยมชมและขอพรศาลเจ้าแห่งนี้
ศาลเจ้าเมจิ
ศาลเจ้าเมจิ ถือได้ว่าเป็นศาลเจ้าสำหรับการสักการะจักรพรรดิเมจิกับจักรพรรดินีโชเคน โดยศาลเจ้าที่ว่านี้ มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก โดยมีขนาดถึง 700,000 ตารางเมตรกันเลย และยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ล้อมรอบ ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีการรวบรวมมาจากญี่ปุ่นทั่วทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ ประมาณ 100,000 กว่าต้น กันเลยทีเดียว จึงทำให้สามารถสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้เป็นอย่างดี สามารถสัมผัสได้ครบทั้ง 4 ฤดูกาลเลย ทำให้คนญี่ปุ่นนิยมมาที่นี่กันเป็นอย่างมาก และจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมากราบไหว้และขอพร ในช่วงปีใหม่ หรือในแต่ละปี ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมจนไปถึงเดือนมีนาคม ถือเป็นอันดับหนึ่งของญี่ปุ่นเลย
ศาลเจ้าคันดะ
ศาลเจ้าคันดะแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าที่ผู้คนสามารถเดินมาจาก ย่านที่นิยมขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งตั้งอยู่ในละแวกอะกิฮะบะระ ถือเป็นย่านยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวเลย เพราะศาลเจ้าคันดะแห่งนี้ เป็นศาลเจ้าเก่าแก่มาก โดยมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,300 ปี กันเลยทีเดียว ซึ่งว่ากันว่า มีแม่ทัพในอดีตจะมาสวดขอพรให้ได้ชัยชนะก่อนที่จะบรรลุจุดประสงค์ในการรวมประเทศได้ จากนั้นจึงเป็นที่กล่าวขานถึงการให้โชคทางด้านการแข่งขัน หรือโชคทางด้านกีฬานั่นเอง คุณมะสึชิตะ โคโนะสุเกะ ผู้ก่อตั้งบริษัท พานาโซนิค ที่บริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าของญี่ปุ่น จึงเดินทางมากราบไหว้ขอพรที่ศาลเจ้าแห่งนี้มาเป็นประจำเช่นกัน
