ทำไมผนังวัดเก่าในไทยจึงมีภาพแนวอิโรติก

by thiaopaithua
0 comment
ผนังวัดเก่า

ทำไมผนังวัดเก่าในไทยจึงมีภาพแนวอิโรติก

วัดซึ่งถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนาที่เมื่อเราเข้าไปภายในพระอุโบสถจะเห็นภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังวัดเรื่องราวของพุทธประวัติที่เราพบเห็นได้แทบทุกวัดและเป็นหลักฐานให้รุ่นหลังได้ศึกษาหรือรำลึกถึง  แต่ถ้าลองสังเกตอย่างชัดเจน บริเวณโดยรอบอาจจะมีภาพเสพสังวาส หรือตัวกากในรูปแบบหนึ่งปรากฎอยู่ซึ่งมองแบบผิวเผินอาจจะคิดว่าเป็นภาพที่บัดสีบัดเถลิง แต่เป็นองค์ประกอบอยู่คู่กับจิตรกรรมฝาผนังวัดไทยมาอย่างยาวนานเลยทีเดียว

ก่อนอื่นเรามาทำเข้าใจคำว่า ‘ตัวกาก’ บนฝาผนังวัดกันก่อน

คำว่า ‘กาก’ ตามพจนานุกรมราชบัณฑิตสถานให้ความหมายว่า สิ่งที่เหลือเมื่อคั้นหรือคัดเอาส่วนดีออกแล้วซึ่งในปัจจุบันมักจะถูกนำมาใช้ล้อเลียนคนที่ถูกมองว่าไม่มีประโยชน์ แต่เมื่อคำว่ากากมาอยู่ในเชิงความหมายของศิลปะจิตรกรรมนั้นจะมีความหมายในอีกรูปแบบหนึ่งคือ ตัวกาก ตัวประกอบของโครงเรื่องหลัก มักวาดเติมใส่รอบบริเวณวัดเพื่อให้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ปรากฎบนภาพวาดตามฝาผนังพระอุโบสถเป็นภาพวาดเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ปริศนาธรรม ชาดก บ้างก็มีเหตุการณ์บ้านเมือง ซึ่งเป็นภาพขนาดเล็กทำให้เหลือพื้นที่ว่างจำนวนมาก ผู้วาดจึงได้เพิ่มเรื่องราววิถีชีวิตและพฤติกรรมของผู้คนในสมัยนั้น โดยใช้ ‘ตัวกาก’ ที่ผู้เขียนอธิบายไปข้างต้นเป็นตัวคอยดำเนินเรื่องถือเป็นกลวิธีในการเติมแต่งพื้นที่ว่างของวัดให้มีประโยชน์เข้าไปด้วยเรื่องขบขันต่างๆรวมไปถึงเรื่องราวของการเสพสังวาสตามแต่จินตนาการของผู้วาดที่ต้องการถ่ายทอดเรื่องราวโดยไม่สามารถถ่ายภาพออกมาได้ในสมัยนั้น  

ภาพเสพสังวาสเป็นภาพวาดจิตรกรรมในบริบทการมีเพศสัมพันธ์ในอากัปกิริยาต่าง ๆ พบบนจิตรกรรมฝาผนังวัดเป็นจำนวนมากมีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 จนถึงในรัชกาลที่ 3 อาจล่วงเลยมาจนถึงรัชกาลที่ 5 มีการพัฒนาลายเส้นให้เป็นคนเสมือนจริงพร้อมลงสีสันอย่างเป็นธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง  สมัยรัตนโกสินทร์ภาพสังวาสบนผนังวัดมิได้มีแค่ระหว่างชายหญิงเท่านั้นยังมีปรากฎฎในรูปแบบระหว่างหญิงกับหญิงและชายกับชายอีกด้ว สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติเนื่องจากยุคนั้นสยามได้มีการติดต่อระหว่างประเทศมากขึ้น

 ‘มิใช่การลบหลู่ศาสนา เพียงแต่เป็นการสะท้อนประวัติศาสตร์ชีวิต’

เสน่ห์ของตัวละครไร้ชื่อหรือตัวกากเข้าไปเสริมให้องค์ประกอบของภาพสมดุลมากขึ้นอันแสดงถึงกิเลสและธรรมชาติของมนุษย์ก่อนจะบรรลุธรรม ซึ่งภาพการเสพสังวาสเป็นหนึ่งในตัวกากเท่านั้น (ถ้าไม่สังเกตก็ไม่แทบจะมองไม่เห็นเลยทีเดียว) นอกจากนั้นยังมีการวาดภาพสัตว์นานาชนิด  การปกครอง สังคม ประเพณีวัฒนธรรม และวิถีชีวิตรวมอยู่ด้วยสุดแล้วแต่วิธีคิดและอารมณ์ของช่าง 

การวาดภาพกากหรือภาพสังวาสลงไปในพื้นที่ว่างบนฝาผนังวัดมิได้เป็นการดูหมิ่นหรือลบหลู่ศาสนาแต่อย่างใดเพียงแต่เป็นการสะท้อนประวัติศาสตร์วิถีชีวิตทำให้รับรู้เรื่องกิเลสตัณหาของมนุษย์อันแสดงถึงความเป็นจริงในทางโลกและทางธรรมอย่างชัดเจนไว้เป็นหลักฐานให้รุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป หากเรามองอย่างเข้าใจจิตรกรรมเชิงสังวาสเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบภาพนอกเหนือจากเรื่องหลักที่ศิลปินได้ถ่ายทอดวิถีชีวิต เรื่องขบขัน และความเป็นจริงของธรรมชาติมนุษย์เข้าไปนั่นเอง ศิลปะคือการเติมเต็มจินตนาการที่ไม่สิ้นสุด ติดตามบทความที่น่าสนใจ เที่ยวไปทั่ว

You may also like

Leave a Comment