เริ่มกันที่ทำไมเบียร์เยอรมันเป็นเครื่องดื่มคู่ประเทศเยอรมนีหลายคนอาจจะคิดว่าเบียร์มีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมนี แต่ในความเป็นจริงแล้วต้นกำเนิดของเบียร์นั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัด โดยมีการคาดการณ์กันว่า เบียร์ มีต้นกำเนิดมาจากภูมิภาคตะวันออกกลางเมื่อ 7,000 ปีก่อน และเริ่มเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายในสมัยอียิปต์โบราณ จากนั้นจึงกระจายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในเวลาต่อมา ติดตามความรู้มากมายใน เที่ยวไปทั่ว
จุดกำเนิดของเบียร์เยอรมัน
สำหรับชาวเยอรมันแล้ว เบียร์เยอรมัน เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมานับพันปี โดยเริ่มแรกนั้น เบียร์จะถูกผลิตขึ้นในโบสถ์ทางตอนใต้ของประเทศและเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะในสมัยนั้นเบียร์ถือว่ามีความสะอาดและเชื่อกันว่าดีต่อสุขภาพ
จนกระทั่งเมื่อ 500 ปีก่อน ได้มีการประกาศใช้กฎหมายความบริสุทธิ์ของเบียร์ (The Purity Law)เพื่อควบคุมคุณภาพของเบียร์โดยเฉพาะวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต ซึ่งเดิมถูกบังคับใช้เฉพาะแคว้นบาวาเรียเท่านั้น จากนั้นจึงได้บังคับใช้ทั่วทั้งประเทศในเวลาต่อมา
ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 เบียร์ได้รับความนิยมอย่างมาก ความนิยมนำไปสู่การสร้างแบรนด์เฉพาะและคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเบียร์เยอรมัน จำนวนมาก ทุกวันนี้ เรายังคงใช้คำเหล่านี้อยู่มากมายในภาษาของเราทุกวัน แต่ดูเหมือนว่าคนเยอรมันจะไม่ใช้คำเหล่านี้อีกแล้ว อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในความหมายดั้งเดิม
ต้นกำเนิดของอุตสาหกรรมเบียร์เยอรมันสามารถสืบย้อนไปถึงปลายศตวรรษที่ 18 เมื่อผู้ผลิตเบียร์ชาวบาวาเรียชื่อ Franz-Josef Pfefferkorn เริ่มผลิตเบียร์คุณภาพในโรงเบียร์ในบ้านของเขา อย่างไรก็ตาม ไม่นานจนกระทั่งในศตวรรษที่ 20 ได้มีการนำเบียร์ลาเกอร์ที่ผลิตจำนวนมากออกสู่ตลาดเป็นครั้งแรกของเยอรมนี ความสำเร็จในการสร้างสรรค์ของ Pfefferkorn เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ผลิตเบียร์รายอื่นๆ เริ่มผลิตเบียร์ระดับพรีเมียมเช่นกัน
เบียร์เยอรมัน เครื่องดื่มหมักที่ได้รับการต้มมานับพันปี
ด้วยข้าวบาร์เลย์มอลต์ ฮ็อพและยีสต์ เบียร์จึงเป็นผลิตภัณฑ์พิเศษของการต้มเบียร์ สามารถเสิร์ฟร้อนหรือเย็นได้ แต่ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือเครื่องอุ่น เช่น “นมอุ่น” (เบียร์แลกเต้) หรือ “สตอลเลน” (เหล้ายิน) เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นี้ได้รับความนิยมในเยอรมนีในยุคทองของเจอร์เมเนีย และยังคงได้รับความนิยมจากนักดื่มเบียร์หลายล้านคนทั่วโลก
ทุกวันนี้ เบียร์เยอรมันจำนวนมากได้รับความนิยมไม่เพียงแต่ในด้านรสชาติ แต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพและมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงอีกด้วย ปัจจุบันมีพันธุ์ต่าง ๆ มากกว่า 250 ชนิดในตลาด โดยแต่ละชนิดมีลักษณะเฉพาะและจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์
