เกาะมอริเชียส (Mauritius) หรือสาธารณรัฐมอริเชียสเป็นประเทศเล็ก ๆ ของทวีปแอฟริกาที่อยู่ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นสวรรค์ของคนรักการเที่ยวทะเล เพราะที่นี่มีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลสีฟ้าไล่เฉดหลายระดับ มีธรรมชาติอันสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะหลงรักทะเลรักธรรมชาติแบบไม่รู้ตัว ยังไม่จบเพียงเท่านั้นยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เราได้สนุก เช่น ดำน้ำ ตกปลา ปีนเขา ลุยป่า เล่นน้ำตก ดังนั้นบทความนี้จะนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะมอริเชียส (Mauritius) ไปดูกันเลย เที่ยวไปทั่ว
มอริเชียส (Mauritius) เมืองที่สุดของความสวยงาม
1. เลอ มอร์น (Le Morne)
เป็นจุดท่องเที่ยวหลักตั้งอยู่บริเวณตอนใต้ฝั่งตะวันออกของ เกาะมอริเชียสอยู่ติดทะเลมีชายหาดยาวขาวและน้ำทะเลสีฟ้าใส เรียงรายไปด้วยรีสอร์ทและโรงแรมมอริเชียสหลายแห่ง มีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่เรียกว่าเลอ มอร์น บราบองต์ (Le Morne Brabant) ยอดเขาที่มีความสูงกว่า 555 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปเป็นระยะทางประมาณ 3.5 กิโลเมตร และได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การ UNESCO ให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 2008
2. เนินทรายเจ็ดสี (Seven Coloured Earths)
เนินทราย 7 สีคือ สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติจากการที่หินภูเขาไฟเย็นตัวลงในอุณหภูมิที่แตกต่างกัน และแร่ธาตุต่าง ๆ ภายในชั้นหินทรายของหินภูเขาไฟเหล่านี้ก็ทำปฏิกิริยากัน ทำให้เกิดเป็นเนินทราย 7 สี โดย 7 สีนั้นได้แก่ แดง น้ำตาล ม่วงอ่อน ม่วงเข้ม เขียว น้ำเงิน และเหลือง
3. น้ำตกชามาเรล (Chamarel Waterfall)
เป็นน้ำตกที่สวยงามที่สุดและโด่งดังที่สุดในมอริเชียส (Mauritius) มีความสูงกว่า 100 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางธรรมชาติสีเขียวที่โอบล้อมสวยงามเป็นอย่างมาก
4. น้ำตกรอเชสเตอร์ (Rochester Falls)
น้ำตกที่นี่ดูไม่เหมือนน้ำตกแห่งอื่น ๆ มีลักษณะเป็นโขดหินสี่เหลี่ยมผืนผ้าสูงประมาณ 10 เมตร เหมาะสำหรับการมาชมความสวยงาม เพราะอากาศดีอยู่กลางป่าใหญ่ ซึ่งความสวยงามของน้ำตกรอเชสเตอร์แห่งนี้ทำให้ได้เข้าไปอยู่เป็นฉากของหนังบอลลีวูดมาแล้วหลายต่อหลายเรื่องเลย
5. สวนพฤกษศาสตร์เซอร์ ซีวูซากูร์ รามกูลัม (Sir Seewoosagur Ramgoolam Botanical Garden)
สวนพฤกษศาสตร์เซอร์ ซีวูซากูร์ รามกูลัมนับเป็นหนึ่งในสวนพฤกษศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในซีกโลกใต้มีพื้นที่ใหญ่กว่า 200 ไร่ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1770 และใช้ชื่อตามประธานาธิบดีคนแรกของมอริเชียส ภายในนั้นมีพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ได้เลือกชมหลายร้อยสายพันธุ์ มีต้นปาล์มกว่า 75 สายพันธุ์ที่นำเข้าและต้องไปชมให้ได้ก็คือบ่อดอกบัวขนาดยักษ์
การเดินทางไปเที่ยวมอริเชียส (Mauritius)
สามารถนั่งเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติเซอร์ ซีวูซากูร์ รามกูลัม (Sir Seewoosagur Ramgoolam International Airport) ถึงเมืองหลวงพอร์ตหลุยส์ (Port Louis) เมืองนี้มีการเดินทางจากเหนือสุดไปใต้สุดก็ใช้เวลาเพียงแค่ไม่ถึง 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้น ส่วนการเดินทางภายในเกาะมอริเชียส (Mauritius) เนื่องจากถนนขับรถฝั่งซ้ายและพวงมาลัยรถอยู่ฝั่งขวาเหมือนประเทศไทย สามารถเช่ารถขับโดยค่าเช่ารถอยู่ที่ประมาณวันล่ะไม่เกิน 1,000 บาท
สุดท้ายเกาะมอริเชียส (Mauritius) ที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ช่วงเดือนพฤษภาคม – เดือนพฤศจิกายน อากาศค่อนข้างเย็นสบาย ไม่ชื้น แถมยังมีแดดตลอดทั้งวัน ไม่แพ้ช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนธันวาคม – เดือนเมษายน นักท่องเที่ยวจะค่อนข้างมาก
ขอบคุณบทความจาก ล็อตโต้สด
