
หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) อยู่ในการปกครองของเดนมาร์กที่ประกอบด้วย 18 เกาะกลางมหาสมุทรแอตแลนติก ตั้งอยู่ระหว่างประเทศนอร์เวย์กับไอซ์แลนด์ ทางเหนือของประเทศสก็อตแลนด์ ที่เต็มไปด้วยหน้าผาริมทะเลและเทือกเขาตามแนวภูเขาไฟ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บริสุทธิ์ มีผู้คนจำนวนน้อยกว่าและบรรยากาศเงียบสงบแห่งนี้ ดังนั้นบทความนี้จะพาไปรู้จักกับสถานที่ท่องเที่ยว จะมีไหนบ้างมาดูกันเลย เที่ยวไปทั่ว
1. Vagar Island

เป็นเกาะท่องเที่ยวหลักของหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) ที่ตั้งของสนามบินและแลนด์มาร์คท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง โดยเฉพาะน้ำตก Mulafossur ที่เป็นไฮไลท์สำคัญ รวมทั้งหมู่บ้านวิวงามริมผามากมายเป็นเกาะที่มีความเงียบสงบ บรรยากาศเย็นสบาย แถมยังเดินทางสะดวก ปลอดภัย เที่ยวได้อย่างสบายใจ
2. Mulafossur Waterfall

เป็นน้ำตก Mulafossur (Múlafossur Waterfall) หนึ่งในแลนด์มาร์คชื่อดังของหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวสุดอลังของน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาสูง 60 เมตร สู่ท้องทะเลแล้ว ตรงริมผายังเป็นที่ตั้งของ หมู่บ้าน Gásadalur (Gásadalur Village) หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สามารถชมทิวทัศน์ของเทือกเขา Arnafjall ได้แบบพาโนรามา
3. Bour Village

เป็นหมู่บ้าน Bour (Bøur) ที่เก่าแก่ของหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) มีหลังคาหญ้าที่โดดเด่นด้วยและกลมกลืนกับทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ ถึงจะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่มีผู้อยู่อาศัยเพียง 65 คน บวกกับความงดงามของทิวทัศน์ของ Drangarnir Gate และ Tindholmur โขดหินรูปทรงประหลาดที่ตั้งอยู่กลางทะเลที่ทำให้หมู่บ้านแห่งนี้แล้ว ชวนให้นักท่องเที่ยวต้องไปที่นี่เป็นจุดหมายปลาย
4. Gjógv Village

หมู่บ้าน Gjógv (Gjógv Village) เป็นหมู่บ้านกระท่อมมีสีสันสวยงามสดใสที่ตั้งอยู่บริเวณริมผาท่ามกลางธรรมชาติน่ารื่นรมย์ มีทัศนียภาพอันงดงามทั้งเทือกเขา Arnafjall หรือเทือกเขา Eysturtindur เป็นฉากหลังรวมไปถึงลำธารสายหลักของหมู่บ้าน ที่ไหลเป็นน้ำตกลงจากหน้าผาสู่ทะเลอย่าง Mulafossur Waterfall ที่สวยงามมากอีกที่หนึ่งของหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands)
5. Traelanipa

Trælanípa หรือ Slave Cliff เป็นจุดชมวิวริมผาที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 142 เมตร ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้าโอบล้อม ทะเลสาบ Sorvagsvatn ที่ทอดยาวลงสู่มหาสมุทรแอนแลนติก เป็นทัศนียภาพที่สวยมากและหาชมไม่ได้จากที่ไหนนอกจากที่หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands)
6. Vestmanna Sea Cliffs

เป็นการนั่งเรือท่ามกลางมหาสมุทรแอตแลนติก หนึ่งกิจกรรมสุดท้าทายที่สายลุยต้องไปลอง โดยเฉพาะการนั่งเรือชมฝูงนกที่ Vestmanna Sea Cliffs หน้าผาตรงชายฝั่งทะเล ปกคลุมด้วยไอหมอกจนทำให้เหมือนผจญภัยเข้าสู่ดินแดนพิศวงของดินแดนหมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands)
7. Kallur Lighthouse

เป็นการผจญภัยชมความยิ่งใหญ่ของ Kallur (Kallur Lighthouse) ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยวริมผา Borgarin เป็นเวิ้งเขาสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 200 เมตร ที่มีรูปทรงแปลกตา แต่สามารถชมวิวท้องทะเลและทุ้งหญ้าอันกว้างใหญ่ได้แบบ 360 องศา และด้วยทัศนียภาพที่หมู่เกาะแฟโร (Faroe Islands) หาที่ใดเปรียบไม่ได้
สนใจบทความการสร้างรายได้ติดตามใน 101หารายได้