
โครเอเชีย (Croatia) หรือสาธารณรัฐโครเอเชีย (Republic of Croatia) เป็นประเทศรูปเสี้ยววงเดือนในยุโรปที่มีอาณาเขตจรดทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตั้งอยู่ระหว่างยุโรปกลาง ใต้ และตะวันออก ล้อมรอบไปด้วยทิวทัศน์ของน้ำทะเลสีฟ้าใสที่ทอดยาวเหนือจรดใต้ เมืองมรดกโลกทางวัฒนธรรมการท่องเที่ยวเมืองเก่าแสนงดงาม ตามแบบฉบับกรีกโรมันและธรรมชาติ อย่ารอช้าไปรู้จักกับโครเอเชีย (Croatia) ให้มากขึ้นกันเลย เที่ยวไปทั่ว
โครเอเชีย (Croatia) ท่องเที่ยวเมืองเก่าแสนงดงาม
1. ดูบรอฟนิก (Dubrovnik)

ตั้งอยู่ทางตอนใต้ชายฝั่งทะเลเอเดรียติกของโครเอเชีย (Croatia) โอบล้อมด้วยทะเลสีฟ้าใส ความสวยงามของภูมิทัศน์และเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมโบราณ ทำให้ที่นี่ถูกพัฒนาให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นมากที่สุดในแถบเมดิเตอร์เรเนียน ทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาชมความสวยงามกันไม่เว้นแต่ละปี ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ “ไข่มุกแห่งทะเลเอเดรียติก” City of Dubrovnik ถูกยกให้เป็นเมืองมรดกโลกจกยูเนสโกในปี ค.ศ.1979 ยังมีสถานที่สำคัญอีกมากมาย อาคารศาลาว่าการประจำเมือง (City Hall) หอระฆัง (Bell Tower) โรแลนด์ คอลัมน์ (Roland’ s Column) ลานน้ำพุมินิโอโนฟโอ (Grand Fountain ofOnofrio) พระราชวังสปอนซา (Sponza Palace) และพระราชวังเรคเตอร์ส (Rector’ s Palace) บ้านเมืองและทิวทัศน์ด้านหลังที่สวยงามหากมากับคนรักสุดแสนจะโรแมนติกไปเลย
2. ทะเลสาบพลิตวิเซ่ ( Plitvice Lakes) หรือทยานแห่งชติทะเลสาบพลิตวิเซ่ ( Plitvice Lakes
National Park)

เป็นอุทยานที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดตั้งอยู่ในเขตภูเขาของเทือกเขา Mala Kapela และเทือกเขา LičkaPlješivica เป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยและมีซื่อเสียงที่สุดของโครเอเชีย (Croatia) มีเส้นทางเดินเท้าที่ง่าย ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินได้ตามระยะทางที่ต้องการทั้งหมด 7 เส้นทางระยะ ตามเส้นทางเดินของอุทยานแห่งนี้จะคล้ายกับเราเดินอยู่เหนือพื้นน้ำสีฟ้าคราม และมีจุดสำคัญคือจุดชมวิวที่สวยงาม มีภาพพื้นหลังประกอบฉากด้วยน้ำตก ถ้ามองลงไปจะเห็นทะเลสาบสีเขียวใสราวกับมรกต ด้วยความงดงามและความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ยูเนสโกยกย่องให้เป็นทะเลสาบที่มีความสวยงามและโดนเด่น โดยองค์การยูเนสโกได้เพิ่มลงในรายชื่อมรดกโลกในปี ค.ศ. 1977 ที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยพืชพรรณไม้ป่ากับธรรมชาติที่งดงามอีกที่ของโครเอเชีย (Croatia) จนไม่สามารถจะอธิบายได้
3. เมืองฮวาร์ (Hvar Town)

เป็นเกาะที่มีชื่อเสียงที่สุดของโครเอเชีย (Croatia) ตั้งอยู่กลางชายฝั่งดัลเมเชี่ยน เมืองนี้ยังคงไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่อุดมสมบูรณ์แบบ แถมยังเป็นเมืองท่าที่สามารถมากขึ้นเรือเพื่อออกไปท่องเที่ยวได้ และจะเห็นเรือยอชต์จอดเรียงรายมากมาย เพื่อรอให้บริการนักท่องเที่ยว และที่นี่ถูกจัดให้อยู่ในอันดับต้น ๆ แหล่งทองเที่ยวชั้นเยี่ยมของโครเอเชีย (Croatia) ในช่วงฤดูร้อนเพราะเมืองนี้จะดึงดูดนักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น มีกิจกรรมมากมาย เช่น การล่องเรื่อยอชต์สุตหรูหรา ชมทุ่งลาเวนเดอร์ เยี่ยมเยือนหมู่บ้านโบราณ เที่ยวไร่องุ่นบนเขา ปาร์ตี้ที่คนรักการท่องเที่ยวในช่วงกลางคิน นับว่าเป็นเมืองสวรรค์แห่งการพักผ่อน
4. เมืองโรวินจ์ (Rovinj)

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของทะเลเอเดรียติก หนึ่งในเมืองที่สวยงามที่สุดในมหาสมุทรเมดิเตอร์เรเนียน เมืองแห่งรีสอร์ทและการท่องเที่ยวสไตล์ยุโรป เป็นส่วนตัวสูงมาก ไม่วุ่นวาย เป็นเมืองท่าโบราณของโครเอเชียทางชายฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรอิสเตรีย (Istria Peninsula) มี 2 ภาษาที่เป็นทางการอิตาลีและโครเอเชีย เนื่องจากในยุคก่อนมีการค้าขายระหว่างประเทศกับอิตาลี รวมถึงการอพยพทำให้เราสามารถเจอคนอิตาลีได้ทั่วไป ลักษณะเมืองนี้เป็นชุมชนหนาแน่นจนติดชิดขอบทะเล ที่พักอาศัยจะถูกปลูกสร้างบนเนินเขาเตี้ย ๆ ที่ห้อมล้อมไปด้วยโรงแรมสไตล์รีสอร์ และถูกล้อมรอบด้วยคาบสมุทรที่มีรูปร่างเหมือนไข่ มีหอคอยโบสถ์ที่สูงเด่นอยู่กลางเมืองเป็นเอกลักษณ์ หอคอยแห่งนี้ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ โบสถ์เซนต์ยูโฟเมีย (The Church of St. Euphemla) หรือที่รู้จักกันในนามมหาวิหารแห่งเซนต์ยูโฟเมีย โบสถ์แห่งนี้มีสมบัติและงานศิลปะมากมาย เมืองนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของคาบสมุทรอิสเตรียในช่วงฤดูร้อน เป็นอีกที่ที่ของโครเอเชีย (Croatia) ที่รอต้อนรับนักท่องเที่ยว
ขอขอบคุณ ล็อตโต้สด