สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดที่โรมาเนีย (Romania)

by thiaopaithua
0 comment

โรมาเนีย

โรมาเนีย (Romania) ประเทศต้นกำเนิดแห่งตำนานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประวัติศาสตร์ และสิ่งก่อสร้างเก่าแก่มากมายรอคอยให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสำรวจ มีแม่น้ำดานูบ (Danube River) สายสำคัญแห่งยุโรปลงไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้จรดชายฝั่งทะเลดำ และเรื่องมีความโดดเด่นอันงดงามด้วยเทือกเขาต่าง ๆ จะเป็นอย่างไร มาค้นหาโรมาเนีย (Romania) ไปพร้อม ๆ กับบทความนี้ได้เลย เที่ยวไปทั่ว

การเดินทางชมความงามของโรมาเนีย (Romania)

1. เมืองบราซอฟ (Brasov)

เริ่มต้นที่เมืองที่มีความสวยงามที่สุดของโรมาเนีย (Romania) จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “สวิสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก” ในตัวเมืองอบอุ่นไปด้วยอ้อมกอดแห่งภูเขาแทมป้า (Mount Tampa) และเนินเขาวาร์เธ (Warthe Hill) ตรงใจกลางเมืองเป็นที่ตั้งของจัตุรัสที่ว่าการซึ่งถูกแวดล้อมไปด้วยตึกต่าง ๆ อีกมากมาย ที่มีสถาปัตยกรรมการสร้างทั้งแบบโรมาเนสก์ ไบเซนไทน์ ร็อกโคโค่ เรอเนสซองส์ และบาโรก ที่จะบอกว่าเมืองแห่งนี้มีอายุเก่าแก่มาก

2. โบสถ์ดำ (Black Church)

ต่อมาจะเป็นที่ตั้งของโบสถ์ดำ (Black Church) สไตล์โกธิคโบราณที่มีที่มาของชื่อการจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในปี 1689 ทำให้ฝาผนังของโบสถ์มีรอยดำอยู่ทั่วไป รอบ ๆ ตัวโบสถ์มีการประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นพระแม่มารีและนักบุญสำคัญต่าง ๆ มากมาย ภายในมีหอระฆังที่ใหญ่ที่สุดในโรมาเนีย (Romania) ภายในโบสถ์บอกเลยว่าอลังการด้วยพรมตุรกีลวดลายสวยงามกว่า 119 ผืน และไปป์ออร์แกนขนาดใหญ่อีกกว่า 4,000 ชิ้น

3. ถนนสฟอริ (Sforii Strada) หรือถนนเชือก (Rope Street)

ถนนสฟอริ (Sforii Strada) หรือถนนเชือก (Rope Street) คือไฮไลท์สำคัญที่มีความกว้างเพียง 111 – 135 เซนติเมตร เป็นถนนที่แคบที่สุดในโรมาเนีย (Romania)

4. ปราสาทเปเลส (Peles Castle)

ที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ เป็นปราสาทที่สวยงามโดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรปตะวันออก มีศิลปะการก่อสร้างแบบผสมผสานหลากหลาย ภายในตัวปราสาทมีจำนวนห้องมากถึง 168 ห้อง ซึ่ง 35 ห้อง และได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชม โดยต้องจ่ายค่าเยี่ยมชมด้วย

5. เมืองบราน (Bran)

ที่เมืองนี่จะได้พบกับปราสาทบรานที่ได้ชื่อว่าเป็นปราสาทแดร็กคิวล่า เนื่องจากในศตวรรษที่ 14 ผู้ครองปราสาทแห่งนี้คือ เจ้าชายแห่งโรมาเนีย ชื่อว่า Vlad Tepes เป็นผู้ที่มีนิสัยใจคอโหดเหี้ยม ชอบทรมานนักโทษด้วยวิธีการที่พิสดารจนทำให้ชาวบ้านแถบนี้ เรียกประองค์ว่า แดร็กคิวล่า (Dracula) ซึ่งแปลว่าปีศาจ

6. เมืองแรสนอฟ (Rasnov)

เป็นที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองบราซอฟและบราน เมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องป้อมปราการซึ่งเป็นหนึ่งในระบบป้องกันภัยของชาวทรานซิลวาเนียในอดีต ตัวป้อมถูกสร้างด้วยหินละอิฐ ภายในยังคงหลงเหลือซากอาวุธโบราณให้เห็นเป็นบางส่วน สามารถชมวิวรอบ ๆ ของปราการยังมีร้านขายของที่ระลึกจากโรมาเนีย (Romania) 

7. เมืองบูคาเรสต์

เป็นเมืองหลวงประจำประเทศโรมาเนีย ที่มีตัวเมืองตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแดมโบวิตา (Dambovita) ถูกรายล้อมด้วยธรรมชาติต่าง ๆ งดงาม โดดเด่นด้วยอาคารรัฐสภา (Palace of Parliament) มีสถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบนีโอคลาสสิก ภายในอาคารถูกตกแต่งหรูหราอลังการ และยังมีย่านเมืองเก่าที่เป็นหัวใจสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโรมาเนีย (Romania) ให้นักท่องเที่ยวได้เที่ยวชม 

8. ถนนทรานสฟาการาเซน (Transfagarasan)

เป็นถนนที่ทอดตัวยาวตั้งแต่เมืองบาสคอฟไปจนถึงหุบเขา Olt ถนนสายนี้มีความยาวมากถึง 90 กิโลเมตร ตามเส้นทางเต็มไปสถานที่ท่องเที่ยว ที่มนุษย์สร้างขึ้นและเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น เขื่อนวิดรารู (Vidraru Dam) ทะเลสาบ และน้ำตกบาเลีย (Balea Lake & Balea Falls)

ประเทศโรมาเนีย (Romania) เป็นแหล่งรวมอารยะธรรม ศิลปะและวัฒนธรรมอันเก่าแก่มากมายจากหลากหลายประเทศที่รอให้นักท่องเที่ยวได้ไปเยี่ยมชม

ขอขอบคุณ ล็อตโต้สด

You may also like

Leave a Comment